Category Crypto

สภาคองเกรสสหรัฐฯ ประกาศจัด “Crypto Week” ระหว่างวันที่ 14–18 กรกฎาคม 2568 เพื่อหารือร่างกฎหมายคริปโตสำคัญ 3 ฉบับ ซึ่งมีศักยภาพเปลี่ยนอนาคตตลาดคริปโตทั้งในประเทศและระดับโลก 🔥 สามร่างกฎหมายที่ต้องจับตามอง 🏛️ Clarity Actร่างกฎหมายที่จะกำหนดโครงสร้างตลาดคริปโตอย่างเป็นทางการ โดยจัดประเภท Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ดิจิทัล และเพิ่มบทบาทให้ CFTC เป็นผู้กำกับหลัก หวังลดความกำกวมในการบังคับใช้กฎหมาย 💸 Genius Actเน้นควบคุม stablecoin อย่างเข้มงวด กำหนดเกณฑ์การออกเหรียญและการสำรองเงินเพื่อประกันราคา หวังปกป้องผู้ใช้งาน และลดความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงิน 🔒 Anti-CBDC Surveillance Billเสนอข้อจำกัดการออก CBDC เพื่อลดความเสี่ยงจากการเฝ้าติดตามประชาชนโดยรัฐบาล…

📉 ความสนใจจากนักลงทุนรายย่อยยังเงียบ แม้ว่า Google Trends จะแสดงให้เห็นว่าการค้นหาเกี่ยวกับคริปโตเพิ่มขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แต่ขณะนี้นักลงทุนรายย่อยยังไม่กลับเข้าสู่ตลาดอย่างจริงจัง ต่างจากช่วงปลายปีที่แล้วและต้นปีนี้ สิ่งนี้อาจเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่มองหาจุดเข้าก่อนคนอื่นได้เปรียบ 🪙 XRP ถูกสะสมโดยนักลงทุนใหญ่แบบเงียบๆ XRP กำลังถูกซื้อผ่านการทำธุรกรรม OTC โดยนักลงทุนระดับสูง ซึ่งไม่กระทบราคาในตลาดโดยตรง ปัจจุบัน XRP ซื้อขายอยู่ที่ 0.223 ดอลลาร์สหรัฐฯ มีมูลค่าตลาดรวม 131.5 พันล้านดอลลาร์ และปริมาณการซื้อขาย 24 ชม. อยู่ที่ 2 พันล้านดอลลาร์ สัญญาณนี้บอกว่าผู้เล่นหลักเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว 🏛️ XRP ETF กำลังใกล้ความจริงมากขึ้น หลายบริษัทกำลังเตรียมยื่นขออนุมัติกองทุน ETF…

Bitcoin ทำระดับราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับสกุลเงิน TRY (Lira) ของตุรกี โดยแตะระดับ 4,037,234 บาท ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจประเทศกำลังเผชิญความไม่แน่นอนอย่างรุนแรง ปัจจัยหลักที่ผลักดันให้เกิดปรากฏการณ์นี้ มาจากปัญหาเงินเฟ้อสูงและการอ่อนค่าของสกุลเงินประจำชาติ ซึ่งทำให้ประชาชนเริ่มหันมาให้ความไว้วางใจใน Bitcoin มากขึ้นในฐานะทางเลือกในการป้องกันค่าเงินฝ่อ 🌍 แนวโน้มเดียวกันนี้ก็พบได้ใน Nigeria และ Argentina เช่นกัน ที่เห็นประชาชนใช้ Bitcoin เป็นเกราะป้องกันมูลค่าของตนเองจากการเคลื่อนไหวของนโยบายเศรษฐกิจภายในประเทศ แม้ว่าราคา Bitcoin ใน USD จะยังไม่ถึงระดับ ATH ก่อนหน้า แต่เมื่อเทียบกับหลายสกุลเงิน fiat ทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศที่มีปัญหาเศรษฐกิจรุนแรง Bitcoin กลับสามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง

สองยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีจีน JD.com และ Ant Group เร่งผลักดันให้ธนาคารกลางจีน (PBOC) อนุญาตการออก Stablecoin ที่ผูกมูลค่ากับเงินหยวน เพื่อแข่งขันกับเหรียญ Stablecoin ที่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในระบบการเงินโลก นโยบายนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ของจีน หลังจากเคยแบนคริปโตทั้งหมดเมื่อปี 2021 โดยบริษัททั้งสองมองว่า การมี Stablecoin ผูกหยวนจะช่วยเสริมบทบาทของเงินสกุลนี้ในตลาดโลก และลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในธุรกรรมข้ามพรมแดน 📈 ศักยภาพตลาด Stablecoin พุ่งสูง ปัจจุบัน ตลาด Stablecoin มีขนาดราว 247,000 ล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 2 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 โดยกว่า 99% เป็นเหรียญที่ผูกกับดอลลาร์…

Tether หนึ่งในผู้เล่นหลักในตลาดคริปโต และ Adecoagro บริษัทเกษตรกรรมยักษ์ใหญ่ของละตินอเมริกา เตรียมร่วมมือกันใช้พลังงานหมุนเวียนในประเทศบราซิลเพื่อสนับสนุนการทำเหมือง Bitcoin การลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ระหว่างสองบริษัทนี้ มีเป้าหมายเพื่อศึกษาและพัฒนาแนวทางในการแปลงพลังงานส่วนเกินจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนให้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล 🌱 พลังงานสะอาดสร้างโอกาสใหม่ให้ภาคเกษตรกรรม ความร่วมมือนี้ไม่ได้มุ่งเน้นแค่เรื่องเทคโนโลยีคริปโตเท่านั้น แต่ยังเชื่อมโยงสามด้านสำคัญ ได้แก่ เกษตรกรรม พลังงาน และบล็อกเชน เพื่อสร้างรายได้เสริมและโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ให้กับเกษตรกรและชุมชนท้องถิ่น 🌍 คริปโตเดินหน้าสู่ความยั่งยืน โครงการนี้สะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์ใหม่ของวงการคริปโตที่หันมาสนใจพลังงานสะอาดมากขึ้น ซึ่งอาจเปลี่ยนโฉมภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรมที่เคยถูกวิจารณ์ว่าใช้พลังงานมาก และไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ลดลงอีกครั้งในเดือนมิถุนายน 2025 มาอยู่ที่ 4.1% จาก 4.2% ในเดือนก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่งแม้เศรษฐกิจจะชะลอตัวตามคาดการณ์ 📊 ตัวเลข Nonfarm Payroll เพิ่มขึ้นถึง 147,000 ตำแหน่ง เกินกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ 110,000 ตำแหน่ง ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มหวั่นใจว่าเฟดอาจไม่รีบลดดอกเบี้ยตามที่เคยคาดการณ์ก่อนหน้านี้ 📉 สัญญาณแรงงานที่แข็งแกร่งอาจชะลอการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในช่วงครึ่งหลังของปี สร้างความไม่แน่นอนให้กับตลาดคริปโตที่จับตาความเคลื่อนไหวของนโยบายการเงินอย่างใกล้ชิด

🔥 ข่าวใหญ่ในวงการลงทุน เมื่อ BlackRock ผู้จัดการสินทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในโลก เผยว่ากองทุน iShares Bitcoin Trust ETF (IBIT) มีรายได้จากการบริหารสูงกว่ากองทุน iShares Core S&P 500 ETF (IVV) ซึ่งเป็นหนึงของหลักทรัพย์สำคัญในวอลล์สตรีท 💰 กองทุน IBIT มีสินทรัพย์รวมประมาณ $75 พันล้าน และมีอัตราค่าธรรมเนียม 0.25% สร้างรายได้ราว $187.2 ล้านต่อปี ในขณะที่ IVV ที่มีสินทรัพย์มากถึง $624 พันล้าน แต่มีค่าธรรมเนียมเพียง 0.03% ทำรายได้น้อยกว่าเล็กน้อยที่ $187.1 ล้านต่อปี…

Paul Atkins ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดทุนสหรัฐฯ (SEC) แสดงจุดยืนชัดเจนในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า “tokenization คือนวัตกรรม” และเป็นสิ่งที่ SEC ควรสนับสนุน ไม่ใช่ใช้กฎหมายขวางการเติบโต Atkins เปรียบเทียบแนวทางการทำงานของเขากับอดีตประธาน Gary Gensler ที่เน้นกำกับด้วยการฟ้องร้องและการบังคับใช้กฎหมายที่คลุมเครือ จนกลายเป็นอุปสรรคต่อเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยเขาประกาศอย่างหนักแน่นว่า “ยุคนั้นมันจบแล้ว” ประธาน SEC คนใหม่ ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดี Donald Trump ผู้ที่มีท่าทีเปิดกว้างต่อเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างชัดเจน 📈 การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในนโยบาย รายงานจาก Binance ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงท่าทีของ SEC ถือเป็นแรงผลักสำคัญที่ทำให้คริปโตถูกนำไปใช้งานจริงเร็วขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสถาบัน ข้อมูลจาก RedStone…

Bitget Wallet จับมือกับ Mastercard เปิดตัวบัตรชำระเงินคริปโตที่ให้ผู้ใช้งานใช้จ่ายได้โดยตรงจากกระเป๋าดิจิทัล ที่ร้านค้ากว่า 150 ล้านแห่งทั่วโลก การร่วมมือนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการเชื่อมต่อระหว่างโลกคริปโตและระบบการเงินแบบดั้งเดิม 💳 เริ่มต้นใช้งานได้ทันทีด้วยบัตรดิจิทัล ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงบัตรในรูปแบบดิจิทัลได้ทันทีผ่านบริการ Mastercard Digital First โดยไม่จำเป็นต้องรอรับบัตรจริง ช่วยลดเวลาในการเริ่มต้นใช้งาน และเพิ่มความสะดวกสบายสูงสุด 🌍 เปิดตัวในยุโรปก่อนขยายทั่วโลก บัตรนี้เปิดตัวครั้งแรกในสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป ก่อนเตรียมขยายการให้บริการไปยังลาตินอเมริกา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ในอนาคต สะท้อนแผนงานระยะยาวของ Bitget Wallet ในการผลักดันการใช้งานคริปโตในชีวิตประจำวัน 💸 ไม่มีค่าธรรมเนียมการใช้จ่าย จุดเด่นของบัตรนี้คือไม่มีค่าธรรมเนียมในการใช้จ่าย พร้อมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานร่วมกับ Immersve ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี Web3 เพื่อให้มั่นใจว่าการทำธุรกรรมจะรวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงสุด

รัฐบาลปากีสถานเดินหมากสำคัญด้วยการเตรียมนำ Bitcoin เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองประเทศ โดยไม่มีแผนขายหรือเก็งกำไรแต่อย่างใด แต่จะใช้เหรียญเหล่านี้เข้าร่วมในระบบนิเวศ DeFi เพื่อสร้างผลตอบแทนแบบยั่งยืนให้กับประเทศ ซีอีโอของสภาคริปโตแห่งปากีสถานเผยว่า “เราตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ขาย Bitcoin ไม่ว่าราคาจะขึ้นสูงแค่ไหน เราจะถือไว้เพื่ออนาคตและผลตอบแทนระยะยาว” 💰 การลงทุนครั้งใหม่ที่เน้น passive income แผนนี้เน้นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีบล็อกเชนอย่างเต็มที่ โดยอาจรวมถึงการนำ Bitcoin ไปใช้ใน staking, yield farming หรือโปรโตคอล DeFi อื่น ๆ เพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศโดยตรง โดยไม่ต้องพึ่งพาการขายสินทรัพย์ออกไป ⚖️ จัดตั้งหน่วยงานกำกับเฉพาะทาง เพื่อสนับสนุนแผนนี้อย่างเป็นระบบ รัฐบาลกำลังจัดตั้ง Pakistan Digital Assets Authority (PDAA) หน่วยงานเฉพาะด้านที่จะทำหน้าที่ควบคุมและบริหารจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมวางกรอบกฎหมายที่ชัดเจนสำหรับการลงทุนและการใช้งานคริปโตในประเทศ…